วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พ่อของฉัน


           ครอบครัวของฉันประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่สาวสองคนและฉัน เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวของฉันมีมาก จึงทำให้พ่อต้องทำงานอย่างหนัก  ในตอนแรกพ่อของฉันทำงานก่อสร้าง แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจทำให้เงินไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัว ในบ้านของฉันตอนนั้นเรียกได้ว่าข้าวสารแทบไม่มีกรอกหม้อ พ่อจึงอดอาหารมื้อกินมื้อ เพื่อให้ฉันและพี่ๆและน้องๆได้อิ่ม พ่อของฉันจึงตัดสินใจลงเลือกเป็นตัวแทนของประชาชน พ่อของผมได้รับเลือกให้เป็น ประธานสภา เพราะรายได้ที่จะได้รับมากกว่า พ่อของฉันชอบงานก่อสร้างเพราะอาชีพก่อสร้าง เป็นอาชีพที่พ่อทำมานานจนมีบ้านเป็นของตัวเอง พ่อบอกว่าไม่ว่าอาชีพอะไรขอให้เป็นอาชีพที่สุจริต คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าพ่อเลือกเกิดได้พ่อก็อยากมีฐานะการเงินที่ดี ลูกๆของพ่อจะได้สบายแต่พ่อก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกๆของพ่อสบายและมีความสุข” หลังจากนั้นครอบครัวของฉันมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พ่อจึงส่งฉันเข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีๆ เพื่อในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก พ่อตัดสินในเลิกทำอาชีพนี้และนำเงินเก็บที่มีอยู่มาเลี้ยงพ่อแม่ในย่มที่ท่านแก่เฒ่า แต่เมื่อใดที่พ่อมีเวลาว่าง พ่อมักจะสอนข้อคิดดีๆเสมอ และไม่ปล่อยเวลาให้ปล่าวประโยชน์ โดยยกตัวอย่างความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับพ่อ ยกตัวอย่างเช่น พ่อสอนให้ฉันมองคนอย่างเท่าเทียมกันไม่เขาจะพิการ จน หรือ รวย แต่เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นในแบบที่เราต้องการได้ ชีวิตเราเราเป็นคนกำหนดเองพ่อก็ยังเคยบอกอีกว่าไม่ว่าจะรวยจะจนก็เป็นคนดีได้ พ่อยังบอกอีกว่า ครู อาจารย์ ก็เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง ที่คอยขัดเกลาให้เราเป็นดีของประเทศชาติ ดั้งนั้นเราควรเชื่อฟังทั้งพ่อแม่และครู อาจารย์ และสิ่งที่พ่อคอยย้ำเตือนฉันมาตลอด พ่อบอกว่า เราต้องยืนด้วยขาของเราเอง อย่าไปเกาะใครเขา ถ้าวันนี้เราลำบากวันหน้าเราอาจจะสบายถ้าเราขนันตั้งใจเรียน ถ้าเรามั่วแต่จะสบายในวัยเด็กโตขึ้นก็จะลำบากเนื่องจาก ไม่มีความรู้จากการศึกษามาเลี้ยงชีพได้  ฉันยึดประโยคนี้เป็นคติประจำใจฉัน เมื่อเรามีมากขึ้นเราต้องรู้จักการให้คนที่มีน้อยกว่าเรา อย่าเบียดเบียนผู้อื่น ซื่อสัตย์  และที่สำคัญที่สุดคือ พอเพียง ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยให้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตนเช่นไร รู้จักประมาณตนและมีเหตุผล  ตอนฉันเด็กๆ พ่อมักจะเล่าพระราชกรณียกิจต่างๆที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนชาวไทย พ่อบอกว่าเราไม่มีอะไรจะตอบแทนพระองค์ท่านได้นอกจากประพฤติตนเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ ฉันตระหนักในทุกสิ่งที่พ่อทั้งสองได้ทำเพื่อฉัน เพื่อปวงชนชาวไทย ดังนั้นฉันจะนำคำสอนที่พ่อของฉันทั้งสองคนได้สอนฉันไว้ไปปฏิบัติ เพราะคงไม่ใครหวังดีกับฉันเท่ากับบุคคลสองท่านนี้อีกแล้ว  ....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น